สามารถขจัดคราบแมลงออกจากผ้าได้ วิธีการต่างๆ ด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณขจัดคราบแมลงออกจากผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอน
วิธีที่ 1 จาก 4: ผ้าที่ซักได้: คราบแมลงสด
ขั้นตอนที่ 1. แช่ผ้าในอ่างน้ำเย็นประมาณ 30 นาที
ขั้นตอนที่ 2. ถูผ้ากับตัวเองเพื่อคลายคราบแมลง
ขั้นตอนที่ 3 รักษาพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ใช้เอนไซม์
ขั้นตอนที่ 4. ซักผ้าตามปกติ
วิธีที่ 2 จาก 4: ผ้าที่ซักได้: คราบแมลงแห้งหรือเก่า
ขั้นตอนที่ 1. ใช้แปรงปัดเศษส่วนเกินออก
ขั้นตอนที่ 2 ผสมน้ำยาซักผ้า 1/2 ช้อนชากับเอนไซม์ แอมโมเนีย 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำเย็น 1 ควอร์ตในอ่าง
ห้ามใช้น้ำอุ่น
ขั้นตอนที่ 3. แช่ผ้าไว้อย่างน้อย 30 นาที
สำหรับคราบแมลงเก่า คุณต้องแช่ไว้นานขึ้น
ขั้นตอนที่ 4. ซักผ้าตามปกติ
หากยังคงมองเห็นรอยเปื้อน ให้ทำซ้ำขั้นตอนการแช่
วิธีที่ 3 จาก 4: ผ้าที่ไม่ล้างทำความสะอาดได้: คราบแมลงสด
ขั้นตอนที่ 1. ฉีดน้ำเย็นบริเวณที่เปื้อนด้วยขวดสเปรย์
ขั้นตอนที่ 2. ซับบริเวณนั้นด้วยผ้า
ทำซ้ำขั้นตอนการพ่นและซับจนคราบแมลงหมดไป
ขั้นตอนที่ 3 เช็ดบริเวณนั้นให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
วิธีที่ 4 จาก 4: ผ้าที่ไม่ล้างทำความสะอาดได้: คราบแมลงแห้งหรือเก่า
ขั้นตอนที่ 1. ใช้แปรงปัดส่วนที่แห้งส่วนเกินออก
ขั้นตอนที่ 2 ผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำเย็น 2 ถ้วยในชามใบใหญ่เพื่อทำน้ำยาล้างจาน
ขั้นตอนที่ 3. จุ่มแปรงสีฟันลงในสารละลายและค่อยๆ แปรงบริเวณที่เปื้อน
ขั้นตอนที่ 4. ซับบริเวณนั้นด้วยผ้าเปียกที่สะอาดเพื่อล้างสารละลาย
ทำซ้ำขั้นตอนการใช้ การแปรงฟัน และการล้าง หากจำเป็น
ขั้นตอนที่ 5. ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเพื่อล้างสารละลายที่เหลือ
ล้างออกให้สะอาด
ขั้นตอนที่ 6. เช็ดบริเวณนั้นให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
หากยังคงมองเห็นคราบ ให้ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% บนผ้าด้วยความระมัดระวัง ทดสอบก่อนในจุดที่ซ่อนอยู่บนวัสดุ
ขั้นตอนที่ 7 หล่อเลี้ยงบริเวณที่เปื้อนด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3%
ปล่อยให้นั่งประมาณ 5 นาที
ขั้นตอนที่ 8. ซับสารที่เป็นฟองด้วยผ้าแห้งสะอาด
ทำซ้ำขั้นตอนการใช้และซับจนคราบแมลงหายไป
ขั้นตอนที่ 9 ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเพื่อล้างสารละลายที่เหลือ
ล้างออกให้สะอาด
ขั้นตอนที่ 10. ใช้ผ้าขนหนูแห้งเช็ดบริเวณนั้นให้แห้ง
คำเตือน
- ห้ามใช้ของร้อนกับคราบแมลง ความร้อนจะทำให้โปรตีนสุกในคราบและจะทำให้เซ็ตตัว
- ห้ามผสมสารฟอกขาวแอมโมเนียและคลอรีนเพราะจะส่งผลให้เกิดควันอันตราย
- ห้ามสูดดมแอมโมเนีย เป็นอันตราย